E-book สวรรค์รำลึก

สถิติเยี่ยมชมเว็บสวรรค์รำลึก

1879954
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
299
407
1769
1876301
7948
11626
1879954

Your IP: 35.175.246.88
Server Time: 2024-03-29 15:54:24

รำลึกศึกษา

ศึกษาประวัติของหุบผาสวรรค์เมืองศาสนาในอดีต

ร้านหนังสือสวรรค์รำลึก

เยี่ยมชมเรา

สื่อมงคลสำนักปู่สวรรค์

สิ่งดีที่ฝากไว้ ดร.คลุ้ม วัชโรบล

ความรู้ทางวิญญาณ จากการศึกษาของ ศาสตราจารย์ ดร.คลุ้ม วัชโรบล

ภาพยนต์รำลึก

ชมภาพยนต์ประวัติศาสตร์และสื่อเพื่อการศึกษาค้นคว้า

เหตุเกิดที่อำเภอนาจะหลวย อุบลราชธานี

พลตรีประสิทธิ์ ชื่นบุญ

พล.ต.ประสิทธิ์ ชื่นบุญ

เหตุเกิดที่อำเภอนาจะหลวย อุบลราชธานี

บันทึกของ พลตรี ประสิทธิ์ ชื่นบุญ อดีตเจ้ากรมการทหารสื่อสาร กองทัพบก และอดีตผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์กองทัพบก

      หลังจากข้าพเจ้าเกษียณอายุราชการแล้ว ก็ใฝ่หาสถานที่สงบจิตในเบื้องปลายของชีวิต มาเจอสถานที่ ที่แปลกกว่าที่อื่นๆก็คือสำนักปู่สวรรค์ ซอยจาตุรงค์สงคราม บางแคเหนือ กม.๑๕ ครึ่งจากกรุงเทพมหานคร และอาณาจักรหุบผาสวรรค์เมืองศาสนา ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งนอกจากจะสามารถเป็นที่สงบทางจิตแล้ว ยังสามารถช่วยชาติบ้านเมืองและประชาชนในโลกให้เกิดสันติสุขและปลอดภัยอีกทางหนึ่งด้วย ข้าพเจ้าจึงสนใจที่จะไปศึกษาและสังเกตการณ์เป็นพิเศษในการดำเนินงานของสถานที่สองแห่งนี้

 ผ้ายันต์พิทักษ์เอกราช

ผ้ายันต์พิทักษ์เอกราช 

                กิจกรรมอย่างหนึ่งที่สำนักปู่สวรรค์ดำเนินการสม่ำเสมอตลอดมาตั้งแต่ปี ๒๕๑๕ แล้ว ก็คือการนำผ้ายันต์พิทักษ์เอกราชและเครื่องอุปโภคบริโภคไปแจกแก่ทหาร ตำรวจ และพลเรือนที่ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันอธิปไตยของไทยตามแนวชายแดน ซึ่งเป็นการเพิ่มกำลังใจให้แก่ท่านผู้กล้าหาญและเสียสละนั้นเป็นอย่างมากด้วย คณะธรรมทูตจากสำนักปู่สวรรค์ที่เดินทางไป ถึงแม้จะประสบเหตุการณ์ต่างๆอันเกจากผู้ก่อการร้าย ก็จะรอดปลอดภัยมาด้วยดีทุกครั้ง ตามที่ปรากฏรายละเอียดในหนังสือของสำนักปู่สวรรค์ เรื่องติดตามคณะธรรมทูตแจกผ้ายันต์พิทักษ์เอกราช”  , “เรื่องเลือดพิทักษ์แผ่นดินไทยเป็นต้น หนังสือเหล่านี้ซื้อได้จากสำนักปู่สวรรค์ อาณาจักรหุบผาสวรรค์เมืองศาสนา และสำนักงานประสานงานสมาคมศาสนาสัมพันธ์ประจำจังหวัดต่างๆ

                เมื่อข้าพเจ้าอ่านแล้วก็ยังไม่ยอมรับ แต่คิดว่าไม่จริงก็ไม่ถูก ต้องเข้าดูด้วยตนเองจึงจะถูกต้อง ข้าพเจ้าได้ศึกษาและติดตามเรื่องต่างๆของสำนักนี้เรื่อยๆมา จนกระทั่งโอกาสที่จะติดตามคณะธรรมทูตแจกผ้ายันต์ก็มาถึง ข้าพเจ้าจึงได้ขออนุญาตจากดวงพระวิญญาณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)พรหมรังสี ซึ่งเสด็จผ่านร่างอาจารย์สุชาติ โกศลกิติวงศ์ ที่สำนักปู่สวรรค์ และท่านก็อนุญาตให้ข้าพเจ้าไปในคณะธรรมทูตที่แจกผ้ายันต์ครั้งหลังสุดเมื่อเดือน มีนาคม พ.ศ.๒๕๒๑ นี้ได้ ต่อไปนี้เป็นประสบการณ์ที่ข้าพเจ้าได้พบเห็นมาด้วยตัวข้าพเจ้าเอง

                คณะธรรมทูตซึ่งมีข้าพเจ้าอยู่ด้วยได้เริ่มออกเดินทางโดยรถยนต์ ๒ คัน จากสำนักปู่สวรรค์ในวันจันทร์ที่ ๖ มีนาคม ๒๕๒๑ จากกรุงเทพมหานครมุ่งตรงไปยังจังหวัดศรีษะเกษ รุ่งขึ้นในวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๒๑ คณะของเราทั้งหมดสมทบด้วยคณะเจ้าหน้าที่จากสำนักงานประสานงานสมาคมศาสนาสัมพันธ์ประจำจังหวัดศรีษะเกษ ได้ไปเยี่ยมเยียนและแจกของแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเรือนอาสาสมัครที่ป้องกันอธิปไตยของไทยในเขตจังหวัดนี้ตลอดแนวพรมแดนด้านกัมพูชา ด้วยความเรียบร้อยตลอดจนถึงค่ำ

เราจึงเสร็จจากการเยี่ยมเยียน แล้วเราจึงเดินทางต่อไปยังจังหวัดอุบลราชธานีในคืนวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๒๑ นั่นเอง โดยไม่ต้องพักให้เสียเวลาเลย คณะธรรมทูตทุกคนแม้จะเหน็ดเหนื่อย เพราะต้องเดินทางทั้งวัน และทางก็ขรุขระเต็มไปด้วยฝุ่น แต่ทุกคนก็รื่นเริง และยิ้มแจ่มใสที่ได้มีโอกาสบำเพ็ญประโยชน์แก่ทหารผู้กล้าหาญ และเสียสละเพื่อประชาชนเหล่านั้น เพราะเขาเหล่านั้นต้องนอนกลางดินกินกลางป่าจริงๆ ล้อมรอบด้วยภยันตรายนานาประการตลอดเวลาอย่างน่าเห็นใจ

 พลตรี ประสิทธิ์ ชืนบุญ

พล.ต.ประสิทธิ์ ชื่นบุญ และวงดนตรี "สวรรค์บันดาล" ขับร้องเพลงปลุกใจทหารตำรวจ ที่ นาจะหลวย 

เมื่อทราบว่าพวกเราได้นำผ้ายันต์ พร้อมทั้งยาและเครื่องอุปโภคบริโภคเท่าที่มีไปแจกก็ดีใจ ซ้ำยังมีนักร้องนักดนตรีและกลุ่มสตรีพิทักษ์แผ่นดินไทยไปบรรเลงเพลงปลุกใจอีก ข้าพเจ้ารู้สึกว่าตำรวจ พลเรือน อาสาสมัครเหล่านั้นมีความแช่มชื่นเบิกบาน และกระฉับกระเฉงขึ้นมากทีเดียว ดวงตามีประกายฉายแสงความกล้าหาญจากดวงใจ ซึ่งพร้อมที่จะต่อสู้กับผู้รุกรานอธิปไตยของประเทศชาติได้ โดยไม่ต้องกลัวเกรงต่อความตาย

คณะเราถึงอุบลฯในคืนนั้นประมาณ ๒๓ น. เมื่อเข้าที่พักเรียบร้อยแล้ว รุ่งขึ้นเช้า ๘ มี.ค.๒๑ ด้วยความร่วมมือจากกองกำกับการ ๓ ตำรวจตระเวนชายแดนที่ จ.อุบลราชธานี ได้ให้ท่านรองผู้กำกับชั้นพันตำรวจโท ๑ ท่าน กับชั้นร้อยตำรวจเอกอีก ๑ ท่าน ร่วมเดินทางไปกับเราด้วย

คณะของเราเดิม ๒ คันรถ ร่วมกับคณะเดินทางใหม่จากอุบลราชธานีด้วยรวมเป็น ๓ คัน เริ่มเดินทางจากตัวจังหวัดอุบลราชธานีเวลา ๘ น.เศษ ไปยังหน่วย ตชด. ที่ ๓๔๒ ที่ อ.นาจะหลวย เป็นหน่วยแรก เมื่อไปถึง อ.นาจะหลวย ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ตชด. หน่วยนี้แล้ว คณะธรรมทูตก็ดำเนินการปลุกปลอบใจ โดยข้าพเจ้าเป็นผู้กล่าวแนะนำตนเอง แล้วบอกความมุ่งหมายให้ ตชด. หน่วยนี้ทราบว่า คณะธรรมทูตซึ่งมีอาจารย์สุชาติ โกศลกิติวงศ์ เป็นหัวหน้าจะได้นำธรรมะตลอดจนสิ่งบำรุงขวัญอื่นๆ อาทิ ผ้ายันต์ , ยารักษาโรค และเครื่องอุปโภคอื่นๆมาเยี่ยม ต่อจากนั้น อาจารย์สุชาติก็ได้กล่าวบำรุงขวัญ ทำนองเดียวกับในหนังสือที่ข้าพเจ้าได้อ้างมาแล้วข้างต้น เสร็จแล้วกลุ่มสตรีพิทักษ์แผ่นดินไทยและคณะก็บรรเลงเพลงปลุกใจร่วมกับ ตชด.

 พระราชญาณดิลกวัดเขาเต่า

พระราชญาณดิลก อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาเต่า มอบผ้ายันต์พิทักษ์เอกราช ให้กับตำรวจรบพิเศษ 

h13-5

 ผู้อำนวยการสำนักปู่สวรรค์ มอบผ้ายันต์พิทักษ์เอกราชและกล่าวบำรุงขวัญให้กับนักรบชายแดน 

แจกผ้ายันต์พิทักษ์เอกราชให้นักรบชายแดน

แม้จะห่างไกล ทุรกันดารอย่างไร คณะบำรุงขวัญก็ออกเดินทางไปเพื่อนำแรงใจจากคนแนวหลังไปมอบให้

ผู้เสียสละเพื่อความเป็นเอกราชของชาติไทย

ขณะที่กำลังรื่นเริงกันอยู่นั้น ข้าพเจ้าก็ได้รับโน้ตบันทึกแผ่นเล็กๆ จาก ผบ. หน่วย ตชด.๓๔๒ มีใจความว่า เส้นทางที่คณะธรรมทูตจะไปยัง ตชด. หน่วย ๓๑๔ นั้น ได้มี ผกค. ลอบวางระเบิดสะพานกลางทาง ห่างจากที่ตั้ง ตชด.๓๔๒ ไปประมาณ ๑ กม. เศษ รถไปไม่ได้เพียงเท่านี้ ข้าพเจ้าจึงถาม หน. หน่วย ตชด. ว่า ระเบิดตั้งแต่เมื่อไหร่ ได้รับคำตอบว่าเมื่อคืนวานซืน ประมาณ ๒ ทุ่มเศษ ยังไม่ได้ซ่อมแซมสะพานแต่อย่างใด และไม่มีใครกล้าผ่านไปเลย

ข้าพเจ้าจึงหันไปปรึกษากับหัวหน้าคณะธรรมทูต คืออาจารย์สุชาติ โกศลกิติวงศ์ ว่าควรทำอย่างใด อาจารย์สุชาติ หันมาถาม หน.หน่วย ตชด. อีกว่า ถ้ารถแล่นลงจากถนน และวิ่งลงไปข้างล่างพื้นถนนไปขึ้นอีกฟากหนึ่งของสะพานจะทำได้ไหม ได้รับคำตอบว่าหน้านี้พอไปได้

เมื่อได้รับคำตอบเช่นนั้น อาจารย์สุชาติก็ได้พูดขึ้นว่า เราต้องไป บนแผ่นดินไทย ใครจะมาห้ามเราไม่ให้ไป ไม่ได้ พวกเราเมื่อได้ฟังหัวหน้าคณะพูดดังนั้น และประกอบกับความเชื่อมั่นในสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)พรหมรังสี หลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด) และท่านท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระ เป็นทุนอยู่แล้ว ก็เฮโลกันขึ้นรถ พร้อมทั้งขอพล ตชด. ที่หน่วยนั้น ไปด้วยอีก ๒ คน ออกเดินทางทันทีโดยมิได้คิดเกรงกลัวเลย

รถวิ่งไปประมาณ ๑ กม. เศษอยู่ในป่า ก็มาจอดห่างสะพานที่ถูกระเบิดประมาณ ๒๐ ม. พวกเราก็พากันลงจากรถไปดูสะพานที่ถูกระเบิด เห็นสะพานถูกระเบิดมากจนไม่สามารถเดินด้วยเท้าบนสะพานได้ เราจำเป็นต้องลงจากรถเดิน และให้รถแล่นลงข้างทาง ไปขึ้นอีกฟากหนึ่งของสะพาน

ทันใดนั้นอาจารย์สุชาติได้สั่งพวกเราให้ขึ้นรถให้หมดและให้รอฟังคำสั่ง อาจารย์สุชาติกับศิษย์อีก ๓ ๔ คน คงยืนอยู่ที่สะพาน ข้าพเจ้าเองอยากทราบเหตุการณ์จึงมิได้กลับขึ้นรถ คงยืนอยู่หลังอาจารย์สุชาติ ซึ่งขณะนั้นหน้าตาผิดไปจากปกติ ถือคทาชูขึ้นพร้อมทั้งใช้มือซ้ายประกอบเล็งไปทางขวา ทางซ้าย สุดท้ายหยุดอยู่ ณ จุดหนึ่งตรงไปข้างหน้า พร้อมทั้งพูดออกมาได้ยินกันชัดเจนในระหว่าง ๔ ๕ คนที่ยืนอยู่ข้างๆว่า มีคน ๔ คนแอบซุ่มอยู่ที่พุ่มไม้โน่นข้าพเจ้ามองออกไปก็พบแต่ต้นไม้ใหญ่ๆเต็มไปหมด ไม่เห็นมีใครสักคนในสายตาของพวกเรา แต่ข้าพเจ้าก็ไม่พูดว่ากระไร

สักครู่ได้ยินอาจารย์สุชาติพูดต่อไปอีกว่า มันจังงังแล้ว”  พูดเสร็จเท่านั้นตัวอาจารย์สุชาติเองถือคทาชูขึ้นเหนือศรีษะ แล้ววิ่งลงจากถนนลงไปข้างล่างที่พื้นทราย แล้ววิ่งไปบนพื้นทรายตรงไปข้างหน้า วิ่งเร็วมาก ผิดปกติที่คนอย่างอาจารย์สุชาติจะวิ่งได้ ลูกศิษย์ ๓ ๔ คนเมื่อหายตะลึงก็ตกลงใจวิ่งตามลงไป

แต่ด้วยสัญชาติญาณของทหารนึกว่า ถ้า ผกค. ซุ่มอยู่จริงแล้วละก็ มันต้องฝังกับระเบิดเอาไว้ และหรือคอยซุ่มยิงพวกเราที่วิ่งลงในที่ต่ำกว่าพวกมันแน่ๆ จึงวิ่งไปด้วยความระมัดระวัง ต่างกับอาจารย์สุชาติซึ่งวิ่งโดยไม่ต้องกลัวเกรงอะไรเลย และวิ่งไปข้างล่างบนพื้นทรายห่างจากสะพานประมาณ ๑๐๐ เมตรเศษจึง ขึ้นบนถนน ส่วนข้าพเจ้าพอวิ่งเลยสะพานมาสักหน่อยก็รีบวิ่งขึ้นบนถนนทันที เพราะวิ่งงได้เร็วกว่าข้างล่างและปลอดภัยกว่าข้างล่าง ส่วนศิษย์ ๓ ๔ คนนั้นรวมทั้งพล ตชด. อีก ๒ คนวิ่งตามอาจารย์สุชาติลงไปข้างล่าง ข้าพเจ้าจึงวิ่งไปทันอาจารย์สุชาติ เอาตอนที่ท่านขึ้นบนถนนพอดี เมื่อท่านขึ้นมาบนถนน ข้าพเจ้าเห็นท่านเอาคทาชี้ไปยังต้นไม้ในป่าข้างทาง ข้าพเจ้ามองตามไปที่ชี้ เห็นคน ๔ คน อยู่บนห้างไม้ที่ทำขึ้น ๒ ชั้น ชั้นบนมี ๒ คน ชั้นล่าง ๒ คน ห่างกันประมาณ ๒๐ เมตร

เมื่อไม้คทาชี้ไปนั้นเห็นพวกเขากำลังลงจากห้างพอดี ตชด. ทั้ง ๒ ชักปืนจะยิง อาจารย์สุชาติโบกมือห้ามไว้ไม่ให้ยิง ก็ได้รับคำตอบว่า เพราะเราเป็นคณะธรรมทูต ตชด. ๒ คนนั้นบอกว่าเคยเห็นจำได้ว่าเป็นคนพื้นบ้านนี้ เรายืนรออยู่ที่นั่นจนพวกที่ลงจากรถ ตลอดจนรถแล่นตามมาบนพื้นทรายข้างถนน จนสามารถหาทางลาดต่ำพอจะขึ้นมาบนถนนได้ ก่อนถึงตำบลที่พวกเรายืนคอยอยู่ ข้าพเจ้าก็เลยชี้ให้คณะที่ตามมา ดูที่ ผกค. ๔ คนเคยอยู่ที่ห้างนั้น และขณะนี้หนีเข้าป่าไปแล้ว รถและคนที่เดินมาปลอดภัยทุกคนไม่มีอันตรายอย่างใด

เมื่อทุกคนขึ้นรถเสร็จแล้ว คณะธรรมทูตก็เดินทางกันต่อไป จนจบโปรแกรมการเยี่ยมเยียนของคณะในวันนั้น ตอนกลับก่อนจะถึง จ.อุบลราชธานี ตชด. ๒ คนที่มาจากหน่วย ตชด.๓๔๒ ได้ขอลงรถที่นั่น เพราะมีรถของพวกเดียวกันโดยสารกลับหน่วยพอดี ข้าพเจ้าได้สอบถามชื่อของเขาทั้งสอง ชื่อ พลฯประจวบ และพลฯทวีศักดิ์

ตอนขากลับรู้สึกว่าหน้าตาของ ตชด. ทั้งสองแช่มชื่นกว่าตอนขาขึ้นรถครั้งแรกมากทีเดียว และรู้สึกมีความเชื่อมั่นในคณะธรรมทูต ตลอดจนหัวหน้าคณะธรรมทูตมาก เข้าใจว่าเขาคงไปเล่าเหตุการณ์ให้เพื่อนฝูงในหน่วย ตชด.๓๔๒ ฟังเป็นแน่

สำหรับข้าพเจ้าในตอนที่อ่านหนังสือบรรยายเหตุการณ์ไปแจกผ้ายันต์ครั้งก่อนๆนั้น อยู่ในระหว่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งแต่ในบัดนี้ข้าพเจ้ามีความมั่นใจในสิ่งศักดิ์สิทธิ์นี้จริงๆ ว่าท่านผู้ศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวพระนามของท่านมาแล้วในตอนต้นนั้น ท่านช่วยคุ้มครองได้จริงๆ

และความแน่ใจของข้าพเจ้ายิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เมื่อเช้าวันที่ ๙ มี.ค. ๒๑ หลังจากตื่นนอนและหาอาหารเช้ารับประทานในเมืองนั้น พบหนังสือพิมพ์ ๒ ๓ ฉบับที่ลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ อ.นาจะหลวย ซึ่งข้าพเจ้าขอนำมาลงไว้เพื่อเป็นหลักฐานสัก ๑ ฉบับ

หนังสือพิมพ์ดาวสยาม ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๑๑๐๕ วันพฤหัสบดีที่ ๙ มีนาคม ๒๕๒๑ หน้าแรก คอลัมน์ขวาด้านล่างสุดดังนี้

ผกค. วินาศกรรม ระเบิดสะพานพังพินาศ ชาวบ้านเจ็บนับสิบ

ผู้ก่อการร้ายก่อกวนก่อวินาศกรรม ระเบิดสะพานเข้าอำเภอพังพินาศ ทำให้การคมนาคมทางรถยนต์หยุดชะงัก และยังวางกับระเบิดไว้ตรงคอสะพาน ชาวบ้านยกโขยงกลับจากเที่ยวงานศพไม่รู้อิโหน่อิเหน่จะเดินข้าม เคราะห์ร้ายเหยียบกับระเบิด แขนขาขาดกระเด็น บาดเจ็บทั้งสาหัสและไม่สาหัสนับสิบ

ผู้สื่อข่าวดาวสยามจังหวัดอุบลฯรายงานมาว่า เมื่อเวลาประมาณ ๒๐.๓๐ น.คืนวันที่ ๖ เดือนนี้ ผู้ก่อการร้ายไม่ทราบจำนวนได้บุกเข้าก่อวินาศกรรม วางระเบิดสะพานลำห้วยคู่ บ้านแก้งเรือง ต.นาจะหลวย อ.นาจะหลวย จ.อุบลญ ซึ่งเป็นสะพานไม้ยาว ๒๐ เมตรเข้าตัวเมืองนาจะหลวยทำให้สะพานดังกล่าวพังเสียหายขาดเป็นท่อนๆใช้การไม่ได้ทำให้การคมนาคม ทางรถยนต์ต้องหยุดชะงักลงทันที นอกจากนี้ผู้ก่อการร้ายได้วางกับระเบิดไว้บริเวณคอสะพานเพื่อทำร้ายชาวบ้านที่สัญจรไปมา เพราะถึงแม้สะพานจะเสียหาย แต่ก็ยังพอมีทางพอสำหรับชาวบ้านเดินไปมาได้สะดวก

ต่อมาในเช้าวันรุ่งขึ้น(๗ มี.ค.) เวลา ๗.๐๐ น. ได้มีราษฎรบ้านโคกน้อยและบ้านโคกใหญ่กลุ่มหนึ่งประมาณ ๒๐ กว่าคน กลับจากไปดูหมอลำหมู่ ในงานศพที่บ้านนายทา สีสัน ในเขตบ้านแก้งเรือง โดยนั่งรถโดยสารกลับมา ต่อมาถึงสะพานดังกล่าว รถยนต์ไม่สามารถข้ามไปได้จำเป็นต้องลงเดินข้ามกันเอง ปรากฏว่าได้เหยียบกับระเบิดที่ผู้ก่อการร้ายวางไว้ เป็นเหตุให้ราษฎรแขนขาขาดกระเด็น บาดเจ็บสาหัสปางตาย ๔ คน มีนายเถือน คำเม้ค อายุ ๓๖ ปี นายพร พลเทพ อายุ ๓๙ ปี นายทูล จันทริษา และ ด.ช.ฟอน สีนวล นอกนั้นได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิดไปตามๆกันอีกกว่า ๑ๆ คน

หลังจากเกิดเหตุ ร.ต.อ.ชาลี มัชแมน สวส.สภ. อ.นาจะหลวย พร้อมด้วยนายสิบพลตำรวจรุดไปสอบสวนยังที่เกิดเหตุ นำผู้บาดเจ็บส่งสถานีอนามัยนาจะหลวย แล้ววิทยุรายงานให้ นายประมูล จันทรจำนง ผวจ. จ.อุบลฯ กับ พ.ต.อ.อุดม อมรชัย ผกก.ฯ ทราบเหตุ ซึ่งต่อมา นายประมูล จันทรจำนง ผวจ. ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.มีชัย นุกูลกิจ ผกก.ตชด. เขต ๓ อุบลฯ นำเฮลิคอปเตอร์ไปลำเลียงผู้บาดเจ็บทั้งหมดส่งโรงพยาบาลประจำจังหวัดอุบลฯอย่างไรก็ตามได้ส่งกำลังตำรวจจำนวนหนึ่งออกติดตามกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่ก่อวินาศกรรม วางระเบิดสะพานกลุ่มนี้ไปอย่างกระชั้นชิดแล้ว..

นี่เป็นข้อความทั้งหมดใน นสพ.ฉบับนั้น เหตุการณ์ตาม นสพ.ดังกล่าวนี้ คณะธรรมทูตยังไม่ได้รับทราบจากผู้ใดเลยในวันที่ ๘ มี.ค.๒๑ รู้แต่เพียงว่าสะพานระเบิด ไปไม่ได้เท่านั้น เมื่อหัวหน้าคณะธรรมทูตตกลงใจเดินทางต่อไป โดยไม่หวาดหวั่นต่อภยันตรายใดๆดังกล่าวแล้ว และปรากฏว่าพบผู้ก่อการร้ายจริงๆ ๔ คน โดยทีแรกไม่เห็นตัวเลย จนพวกเราสามารถเห็นตัวได้ชัดจริงๆ พวกเราปลอดภัยหมดทุกคน ตามความเป็นจริงเช่นนี้ ก็ขอมอบความคิดต่อไปให้ท่านทั้งหลายได้พิจารณาเองก็แล้วกันว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดังกล่าวแล้วมีจริงหรือไม่ และควรจะเชื่อถือได้เพียงใด และน่าจะค้นคว้าหรือพิสูจน์เพียงใด ขอมอบไว้ให้ท่านผู้อ่านช่วยคิดด้วยนะครับ

สวัสดี

พลตรี ประสิทธิ์ ชื่นบุญ

อดีต เจ้ากรมการทหารสื่อสาร(กองทัพบก)

อดีต ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์กองทัพบก

ข้อมูลอ้างอิง  : เกหลง พานิช  มันสมองของโลกที่ถูกมองข้าม สำนักปู่สวรรค์

Contribute!
Books!
Shop!