E-book สวรรค์รำลึก

สถิติเยี่ยมชมเว็บสวรรค์รำลึก

1890494
Today
Yesterday
This Week
Last Week
This Month
Last Month
All days
1061
890
4512
1883440
9926
8562
1890494

Your IP: 3.145.58.169
Server Time: 2024-04-19 21:13:00

รำลึกศึกษา

ศึกษาประวัติของหุบผาสวรรค์เมืองศาสนาในอดีต

ร้านหนังสือสวรรค์รำลึก

เยี่ยมชมเรา

สื่อมงคลสำนักปู่สวรรค์

สิ่งดีที่ฝากไว้ ดร.คลุ้ม วัชโรบล

ความรู้ทางวิญญาณ จากการศึกษาของ ศาสตราจารย์ ดร.คลุ้ม วัชโรบล

ภาพยนต์รำลึก

ชมภาพยนต์ประวัติศาสตร์และสื่อเพื่อการศึกษาค้นคว้า

พระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ สำนักปู่สวรรค์

din 31

พระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ สำนักปู่สวรรค์

ประวัติสังเขปในการจัดสร้าง พระสมเด็จดินเก้าประเทศ สำนักปู่สวรรค์

มูลเหตุของการจัดสร้าง

เนื่องด้วยสำนักปู่สวรรค์มีโครงการที่จะสร้างหุบผาสวรรค์ (อาณาจักรหุบผาสวรรค์เมืองศาสนา) ให้เป็นสถานที่ส่งเสริมการปฏิบัติธรรม วิปัสสนากรรมฐาน เป็นดินแดนแห่งธรรมะสันติภาพและศาสนา ส่งเสริมการดำเนินงานตามแนวทางพระโพธิสัตว์

ในการดำเนินการตามโครงการนี้จำเป็นที่จะต้องใช้ทุนทรัพย์จำนวนมาก เพื่อก่อสร้างกุฏิพระ ศาลาฟังธรรม ตลอดจนสร้างปูชนียวัตถุต่างๆ สำหรับใช้ประโยชน์ในงานพระศาสนา

มีสาธุชนเป็นจำนวนมากที่แสดงความจำนงที่จะร่วมกุศลนี้ ซึ่งทางคณะกรรมการของสำนักไม่มีสิ่งใดที่จะตอบแทนในกุศลจิตนี้ จึงตกลงกันว่าจะสร้างสิ่งอันเป็นความมหัศจรรย์ชิ้นหนึ่งขึ้นมาเพื่อเป็นการตอบแทนและเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ

ในการจัดสร้างพระสมเด็จดินเก้าประเทศนี้ ดวงพระวิญญาณของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)พรหมรังษี องค์อำนวยการสำนักปู่สวรรค์ประทานดำริว่า จะสร้างพระสมเด็จเก้าประเทศจำนวน ๘๔,๐๐๐ องค์ เป็นปูชนียวัตถุชิ้นสุดท้ายให้กับโลกมนุษย์

                อีกประการหนึ่งคือผู้บริจาคปัจจัยบูชาพระสมเด็จไปจะได้เป็นเครื่องระลึกถึงว่า เมื่อครั้งหนึ่งท่านได้มีส่วนในการร่วมสร้าง กุฏิ ศาลาฟังธรรม ศาลาปฏิบัติธรรม ร่วมกัน

ศาลาชินนะปูโตอนุสรณ์ หุบผาสวรรค์เมืองศาสนา

ศาลาชินนะปูโตอนุสรณ์สถานที่จัดพิธีมหาพุทธาภิเษกพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ

ปณิธานเบื้องต้นในการสร้างหุบผาสวรรค์เมืองศาสนา

จะใช้สถานที่แห่งนี้สร้างคนให้ดี เป็นศรีแก่ศาสน์ เป็นปราชญ์สร้างชาติให้เจริญ ด้วยใช้หลักสมาธิข่มกิเลส ละชั่ว สร้างความดี โดยสนับสนุนการสร้างคนให้เป็นพระ บวชเพื่อละ สู่โลกุตรธรรมเป็นสำคัญ

 

พิธีลงพลังจิตและมหาพุทธาภิเษก

ในการจัดสร้างพระสมเด็จดินเก้าประเทศนี้ท่านบรมครูสำนักปู่สวรรค์มีพระบัญชา และประทานขั้นตอนแนวทางในการดำเนินการจัดสร้างอย่างพิถีพิถัน ให้ถูกต้องตาม เทวะบัญญัติ พรหมบัญญัติ  เพื่อให้เกิดความ เข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์สมเป็นสุดยอดวัตถุมงคลแห่งยุค จึงได้มีการลงพลังจิตมวลสารก่อนที่จะมีพิธีมหาพุทธาภิเษกถึง ๒ ครั้งดังบันทึกต่อไปนี้

พิธีลงพลังจิตครั้งที่ ๑

   ระหว่างวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๑๖  -  ๗ เมษายน ๒๕๑๖  เป็นพิธีปลุกเสกดินศักดิ์สิทธ์ ณ สำนักปู่สวรรค์ ( วันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ , เป็นวันเสาร์ห้า ) ในพิธีนี้มีพระเถระฝ่ายโลกมนุษย์ผู้ทรงวิทยาคุณ รอบรู้พุทธศาสน์และวิทยาคม จำนวน ๒ รูป คือ พระราชญาณดิลก ( ชิต กันตสีโล ) วัดเขาเต่า จ.ประจวบคีรีขัณฑ์ และพระราชธรรมกวี วัดเสน่หา จ.นครปฐม ร่วมนั่งปรกด้วย

พิธีลงพลังจิตครั้งที่ ๒ 

พิธีปลุกเสกดินศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สองนี้ จัดขึ้น เมื่อ วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๑๗  ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ตรงกับวันมาฆบูชา ณ ถ้ำสาลิกา หุบผาสวรรค์เมืองศาสนา ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ผู้สำเร็จของโลกวิญญาณที่เมตตาเสด็จมาลงพลังจิตในพิธีนี้ได้แก่

๑.สมเด็จพระสังฆราชคุรูปาจารย์ หลวงปู่ทวด(เหยียบน้ำทะเลจืด) องค์ประธานสำนักปู่สวรรค์

๒.สมเด็จพระพุฒาจารย์( โต ) พรหมรังสี องค์อำนวยการสำนักปู่สวรรค์

๓.ท้าวมหาพรหมชินนะปัญจะระ เจ้าพิธีการแห่งโลกวิญญาณ

๔.องค์อมรินทร์จอมเทพ

๕.ท้าวมหาพรหมสามภพ

๖.ท้าวมหาพรหมสามวิจิตร

๗.ท้าวจตุรพรหม

๘.พระวิษณุมหาเทพ

๙.พระนาคราช

                พระสงฆ์ฝ่ายโลกมนุษย์ คือพระอาจารย์ฮ้อ กัสสะโร เป็นผู้ปลุกเสกเดี่ยวตลอดคืน

 

 

พิธีมหาพุทธาพิเษก

วันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๑๗ เป็นวันเริ่มต้นพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ หุบผาสวรรค์เมืองศาสนา ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี มีบันทึกการจัดงานดังนี้

เวลา ๑๑.๐๐ น.   ถวายภัตตาแด่พระภิกษุสงฆ์และพระราชาคณะที่รับอาราธนามาร่วมในพิธี

เวลา ๑๓.๐๐ น.  รองนายกรัฐมนตรี สุกิจ นิมมาเหมินทร์ เดินทางมาถึงหุบผาสวรรค์เมืองศาสนาเพื่อเป็นประธานเปิดงาน คุณบุญยง ว่องวานิช เลขาธิการสำนักปู่สวรรค์ เป็นผู้กล่าวรายงานการจัดงาน

หลังจากท่านรองนายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดงานแล้ว ศาสตราจารย์ ดร.คลุ้ม วัชโรบล, อาจารย์สุชาติ โกศลกิติวงศ์ , พล.ต. ถวิล เกษตรทัต อัญเชิญธงชาติไทย พานพุ่มและธูปเทียนแพ พร้อมทั้งเรียนเชิญท่านรองนายกรัฐมนตรี อัญเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสา เป็นปฐมฤกษ์  กองดุริยางค์กองทัพบกบรรเลงเพลงชาติ

ศาสตราจารย์ ดร.หลวงสมานวนกิจ , พระครูวามเทพมุณี , คุณฉันท์ บุรารักษ์ นำเรียนท่านรองนายกรัฐมนตรีขึ้นสู่ศาลาชินนะปูโตอนุสรณ์ เพื่อจุดเทียนชัย ประจำชาติไทย  ต่อจากนั้นจึงเรียนเชิญเอกอัครราชทูตอีก ๘ ประเทศอัญเชิญธงชาติและจุดเทียนชัยของแต่ละประเทศตามลำดับ พระสงฆ์จำนวน ๙๙ รูป สวดชยันโต ตลอดพิธี

ช่วงเวลาอันสำคัญ

เวลา ๑๗.๓๕ น.  ม.จ.ชุมปกะบุตร ชุมพล ได้อัญเชิญดวงประทีปพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อมาจุดเทียนชัยในพิธีมหาพุทธาภิเษกนี้เป็นกรณีพิเศษ ยังความปลาบปลื้มมายังคณะกรรมการจัดงานและผู้เข้าร่วมงานนี้เป็นอย่างยิ่ง

ในงานนี้ได้รับพระกรุณาจากสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธ ทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระสงฆ์ผู้ทรงคุณทั่วราชอาณาจักรที่เข้าร่วมในพิธีมหาพุทธาภิเษกนี้ จำนวน ๙๙ รูป

din 29

ศาสตราจารย์ ดร.คลุ้ม วัชโรบล ต้อนรับสมเด็จพระสังฆราช ในพิธีมหาพุทธาพิเษก 

พิธีนั่งปรกลงพลังจิตในแต่ละวันนั้นจะมีพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณเข้านั่งปรกครั้งละ ๙ รูปเจริญสมาธิ แผ่พลังจิตพุทธาภิเษกไปจนรุ่งสาง  เป็นเช่นนี้ตลอด ๙ วัน  ๙ คืน ในวันสุดท้ายของพิธี พระอมฤตนันทะมหาเถโร ประธานสงฆ์ประเทศเนปาล ซึ่งมีเชื้อสาย ศากยวงศ์เป็นประธานดับเทียนชัย ตามบันทึกกล่าวไว้ว่า เมื่อทางสำนักเปิดให้ผู้ที่สั่งจองมารับพระได้ ก็ได้มีสาธุชนเข้ามารับพระกันอย่างเนืองแน่นเป็นประวัติการณ์ 

pic9 7

สมเด็จพระสังฆราชทรงสนทนากับ ศาสตราจารย์หลวงสมานวนกิจ 

เจ้าหน้าที่ของสำนักปู่สวรรค์ต้องตั้งกองอำนวยการในการประสานงานในการจัดส่งพระและวัตถุมงคลอื่นๆ ที่ผ่านพิธีนั้น การรับพระในครั้งนั้นใช้เวลา ๑ เดือนจึงสำเร็จเรียบร้อย 

พระสมเด็จดินเก้าประเทศ สำนักปู่สวรรค์พระสมเด็จดินเก้าประเทศ 

๙ มวลสาร มงคล ในพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ

๑.มวลสารปฐมบทอันใช้คุลีการพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศคือ ดินศักดิ์สิทธิ์จากปูชนียสถาน ๙ ประเทศที่อัญเชิญมาจาก ไทย ลาว เขมร พม่า เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย อินเดีย และเนปาล ผืนแผ่นดินในประเทศดังกล่าว เชื่อว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยเสด็จมาโปรดเวไนยสัตว์เมื่อครั้งพระพุทธกาลมาแล้วทั้งสิ้น ทำให้เนื้อดินจากสถานที่เหล่านั้นล้วนเปี่ยมไปด้วยพุทธบารมี แห่ง พระปัญญาคุณ พระกรุณาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ พระสมเด็จดินเก้าประเทศจึงเป็นพระพุทธปฏิมากรรมที่ทรงด้วย บุญญฤทธิ์ อิทธิฤทธิ์ ด้วยกระแสแห่งพุทธานุภาพโดยตรงจากองค์พระบรมศาสนดาเอกของโลก

๒.มวลสารทุติยบท คือว่านมงคล ๑๐๘ ประการ อันเป็นเนื้อหาที่เป็นมงคลยิ่งอาธิเช่น

๑.ว่านเศรษฐี มีคุณภาพทางกระทำให้เกิดความมั่งคั่งสมบูรณ์นาฐานะกิจการอาชีพ(สัมมาชีพ) ก่อให้เกิดความมั่นคงในฐานะทางครอบครัวอีกส่วนหนึ่งด้วย

๒.ว่านชัยมงคล มีคุณในทางก่อให้เกิดความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิตแก่เคหสถานและอาณาบริเวณอันเป็นที่อยู่อาศัย

๓.ว่านมหาอุตม์ ขึ้นชื่อลือมาแต่ครั้งโบราณว่าใครมีว่านมหาอุตม์แล้วอาวุธปืนไม่ระคายผิวหนังซ้ำสามารถกระทำให้ดินระเบิดหมดอำนาจลงได้ด้วย

๔.ว่านเสน่ห์จันทน์ มีคุณาธิคุณทางพืชอาถรรพณ์ก่อให้เกิดเสน่ห์เกิดความรักใคร่แก่ผู้ที่ได้ประสบพบปะสมาคมด้วย นี้เป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาด้านว่านที่มีอยู่ในองค์พระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ

 

๓.มวลสาร ตติยบท  คือดอกไม้นานาพันธุ์ ๑๐๘ พันธุ์ อาธิเช่น เกสรดอกบุนนาค เป็นยาบำรุงหัวใจให้กระชุ่มกระชวย เบิกบาน เกสรสัตตบุศย์ เกสรโกมุท เกสรลินจง อันดอกไม้นานาพันธุ์พร้อมด้วยเกสร ๑๐๘ ชนิดทุกๆชนิดล้วนมีอารักขเทพประจำรักษาอยู่ด้วยกันทั้งหมดดังนั้นมวลสารตติยบทในพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ จึงเป็นที่สถิตแห่งเทพเจ้าประจำบุปผาชาติถึง ๑๐๘ องค์ พระสมเด็จดิน ๙ ประเทศจึงทรงด้วย เทวานุภาพ อีกประการหนึ่งด้วย

๔.มวลสารจตุตถบท คือผงสมเด็จอิทธิเจ (รวมด้วยผงพระพุทธคุณ ผงตรีนิสิงเห ผงมหาราช ผงปถมัง หรือเรียกอีกนามหนึ่งว่าผงวิเศษ ๕ ประการ

ผงอิทธิเจ เป็นผงที่เกิดจากดินสอดินขาวปั้นเป็นแท่งๆ มีกรรมวิธีการทำดินสอผงนี้โดยเฉพาะ ผู้ที่จะทำดินสอนี้ชนิดนี้ใช้ได้จะต้องเป็นผู้สำเร็จในวาชาไสยเวทย์วิทยาคุณ ( สายขาว ) อันเป็นวิทยาการที่มีอาจารย์น้อยคนที่จะเรียนสำเร็จได้ แต่เจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต ) พรหมรังสี ท่านเรียนวิชานี้สำเร็จตั้งแต่ยังเป็นสามเณร

                เมื่อท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯท่านทำผงได้แล้ว ท่านก็เก็บผงนี้ไว้ในเต้าปูนแดง กาลต่อมาได้มีอุบาสกท่านหนึ่งได้เก็บรักษาไว้ ( กล่าวกันว่าอุบาสกผู้นี้เป็นคนวัดสังเวชวิศยาการ บางลำพูบน ได้ติดตามเจ้าประคุณสมเด็จ มาตั้งแต่ครั้งสมเด็จเป็นสามเณร )

                ผงวิเศษห้าประการนี้ได้รับมรดกมาจากท่านผู้เฒ่าแห่งวัดสังเวชฯมอบให้นำมาคุลีการในการสร้างพระสมเด็จดินเก้าประเทศ และการสร้างพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศในครั้งนี้มีคณาจารย์ได้นำผงวิเศษห้าประการของสมเด็จฯผสมลงทั้งหมด ( สำนักวัดสังเวชวิศยาราม มีพระอาจารย์คือ พระบวรวิริยเถร )

๕.มวลสารปัญจบท ผงพระคาถาชินปัญชร เป็นผงที่เกิดจากดินสอหินขาวบริสุทธิ์ ดินขาวชนิดนี้ในต่างประเทศเรียกว่า ดินกัวลีน เป็นของบริสุทธิ์โดยธรรมชาติมีค่าสูงมาก เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)พรหมรังสี ท่านเป็นผู้ค้นพบบ่อดินขาวนี้ คราวที่ท่านธุดงค์ไปเมืองกำแพงเพชร เป้นบ่อดินบริสุทธิ์ที่สมเด็จค้นพบได้อย่างอัศจรรย์ ( และจนกระทั่งปัจจุบัน [ ข้อมูลอ้างอิงเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗ ] ยังไม่มีผู้ใดสามารถค้นพบบ่อดินชนิดนี้อีกเลย )

                ท่านได้นำดินขาวมาทำเป็นดินสอมงคล และเขียนพระคาถาชินปัญชรด้วยอักขระขอมลงในกระดานชนวนไม้มะละกอ จากนั้นก็เก็บผงสีขาวนั้นไว้นำมาสร้างเป้นพระประติมากรรมองค์เล็กๆบังเกิดกิติคุณความศักดิ์สิทธิ์ จนพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวต้องทรงตรัสถามสมเด็จฯ

๖.มวลสาร ฉมหามงคล ผงผ้ายันต์พิทักษ์เอกราช ผงนี้เกิดจากผ้ายันต์พิทักษ์เอกราชอันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่องค์พระพรหมและเทพยเจ้าชั้นสูงในพรหมโลกร่วมเป็น เทพสภา สร้างไว้ในสำนักปู่สวรรค์ มีความมุ่งหมายเพื่อให้เป็นเครื่องคุ้มครองปกป้องภัยแก่ทหารตำรวจและผู้มีส่วนในการพิทักษ์เอกราชของชาติไทยที่มีชีวิตอยู่ในแดนทุรกันดาร

ผงผ้ายันต์พิทักษ์เอกราช นับเป็นผงที่มีความพิสดารอัศจรรย์เพราะผงนี้จะรวมตัวกันเป็นรูปร่างต่างๆและจะปรากฏในองค์พระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ เมื่อการสร้างพระได้ผ่านไปครบ ๙ ปีแล้ว รูปลายลักษณะเป็นภาพมงคลประจำแต่ละองค์ไม่เหมือนกันแล้วแต่ผู้เป็นเจ้าของพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ จะบูชาหนักไปทางด้านใดด้านหนึ่ง รูปลายลักษณ์มงคลอาจเกิดเป็นภาพ วัตถุทิพย์ ในสรวงสวรรค์อาจเกิดเป็นภาพเครื่องมงคล ๙ ประการอันได้แก่ คธา สังข์ จักร หม้อน้ำ ธงสามชาย กรอบหน้า โคอุคุภราช ขอช้าง อันงดงามในเมื่อถึงวาระปีที่เก้าแห่งการสร้างพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ

๗.มวลสารสัตตมงคล น้ำพระพุทธมนต์ในพิธีเสาร์ ๕ สามโลก ตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ของไทยเราถือกันโดยเคร่งครัดว่าวันเสาร์ ๕ ( เดือน ๕ ขึ้น ๕ ค่ำ วันเสาร์ )  เป็นวันสำคัญในทางไสยศาตร์ ( ไสยฝ่ายขาวอันเป็นเวทวิทยาการที่ให้คุณแก่มนุษย์โดยฝ่ายเดียว

                เทพพระเสาร์ อันเป็นดาวประจำดาวเสาร์ จะเสด็จมาประกอบพิธีบวงสรวงเทพยเจ้าพระผู้เป็นเจ้าและบำเพ็ญกุศลในพระพุทธศาสนา ( ด้วยปัตตานุโมทนามัยคือ อนุโมทนาการบุญของมนุษย์ )ในวันเสาร์ห้านี้ น้ำพระพุทธมนต์ในวันเสาร์ ๕ นี้จึงเป็นน้ำพระพุทธมนต์ เทพมนต์ และน้ำพรหมมนต์พร้อมกันในคราวเดียวกัน จึงเกิดความศักดิ์สิทธิ์สูงยิ่ง

                น้ำพระพุทธมนต์พิธีเสาร์ห้า ๓ โลก ที่นำมาผสมสร้างพระคราวนี้สำเร็จโดยการอัญเชิญ พรหมโลก เทวโลก และมนุษยโลก ร่วมทำพระปริตร พร้อมกันไป น้ำพระพุทธมนต์ตำรับนี้จึงเรียกว่า น้ำทิพย์อันเกิดจาก พรหมฤทธานุภาพ และเทวานุภาพ ด้วยกันสองประการ

๘.มวลสารอัฏฐมงคล น้ำมันพระพุทธมนต์ครอบจักรวาล มวลสารชุดนี้เป็นตัวประสานให้ผงวิเศษและดินบริสุทธิ์รวมตัวกันเป็นรูปแบบที่นายช่างต้องการ ( เป็นรูปองค์พระ ) นอกจากนั้นยังช่วยให้เกิดความสะอาดแวววาวสะท้อนแสงในเนื้อผงอีกด้วย

                น้ำมันต์พุทธมนต์ครอบจักรวาลเป็นน้ำมันจากพืชบริสุทธิ์ เช่น น้ำมันสกัดจากผลนาฬิเกร์ (ผลมะพร้าวสีแสด เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งในบางแห่ง ) น้ำมันสกัดจากผลมะเค็ด ( คล้ายน้ำมันตังอิ๊ว ที่มาจากประเทศจีน ) น้ำมันสกัดจากผลพระเจ้า ๕ พระองค์ (มีลวดลายเป้นพระเจ้าห้าพระองค์ปรากฏอยู่ที่ผิว) น้ำมันสกัดจากผลไม้ที่ขึ้นในลังกาทวีป  เป็นต้น

๙.มวลสาร นวมงคล โองการใบลานพิธีมงคลโบราณ ในตำรับไสยเวทวิทยาคม อันเป็นตำรับหนึ่งในไตรเพทางคศาสตร์ ท่านกำหนดให้อัญเชิญเทพเจ้าในเทวโลกเสด็จมาร่วมพิธีมงคลในมนุษยโลกเป็นการ อนุโมทนาการทำบุญเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ในพิธีนั้นๆด้วยทุกครั้งทุกคราวไป การพิธีนี้เป็นประเพณีของชาติไทยตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราชแห่งกรุงสุโขทัย การอัญเชิญเทพเจ้าก็คือพราหมณ์อ่านโองการอัญเชิญจากคัมภีร์ใบลาน และคัมภีร์ใบลานใบลานโบราณอันเป็นโองการศักดิ์สิทธิ์นี้ใช้ในการคุลีการพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ

ภาพบรรยากาศในพิธีมหาพุทธาภิเษกพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ

din 38

din 35

 din 34

din 36

din 37

din 41

din 43

din 44

din 45

din9 22

din9 8

din9 6

din9 7

jak 9din 40din 42din 39

รายนามของพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ในพิธีมหาพุทธาพิเศกพระสมเด็จดิน ๙ ประเทศ ณ อาณาจักรหุบผาสวรรค์เมืองศาสนา ต.ดอนทราย อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี
๑.สมเด็จสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (วาสน์ วาสโน) วัดราชบพิธ ประธานในพิธี
๒.สมเด็จพระธีรญาณมุณี วัดจักวรรดิ์
๓.พระสาสโสภณ วัดเทพศิรินทราวาส
๔.พระพรหมมุนี วัดราชผาติการาม
๕.พระพุทธพจนวราภรณ์ วัดราชบพิธ
๖.พระเทพคุณาภรณ์ วัดเทพธิดาราม
๗.พระเทพเมธี วัดเศวตรฉัตร
๘.พระมหารัชมังคลาจารย์ วัดราชบพิธ
๙.พระเทพโสภณ วัดพระเชตุพนฯ
๑๐.พระเทพประสิทธิคุณ วัดประยุรวงศาวาท
๑๑.พระเทพวิสุทธิโมลี วัดมหาธาตุ จังหวัดราชบุรี
๑๒.พระราชธรรมกวี วัดเสน่หา จ.นครปฐม
๑๒.พระราชญาณดิลก วัดเขาเต่า จ.ประจวบคีรีขัณฑ์
๑๓.พระราชปัญญาภรณ์ วัดไร่ขิง จ.นครปฐม
๑๔.พระวินัยวาศาจารย์ วัดท่าตำหนัก จ.นครปฐม
๑๕.พระครูประสิทธิวรญาณ วัดอุดมรังษี กรุงเทพมหานคร
๑๖.พระครูพรหมโชติวัฒน์(หลวงพ่อบุญมี) วัดอ่างแก้ว
๑๗.พระครูประยงค์ ชาคโร วัดศรีสำราญ จ.นครปฐม
๑๘.พระครูวิจิตรนวการ วัดโคนอน
๑๙.หลวงพ่อสมศักดิ์ สันติจิตโต วัดธรรมศาลา
๒๐.พระราชญาณกวี วัดขันเงิน จ.ชุมพร
๒๑.พระอโนมคุณมุนี วัดโพธิการาม
๒๒.พระราชสารโสภณ วัดตันตริยสภิรมย์ จ.ตรัง
๒๓.พระราชญาณเวที วัดท่าโพธิ์ จ.นครศรีธรรมราช
๒๔.พระอาจารย์บุญคง วัดภัทยาราม จ.สงขลา
๒๕.พระเทพสารสุธี วัดภูผาภิมุข จ.พัทลุง
๒๖.พระราชพุทธิรังษี วัดมุจลินทวาปีวิหาร
๒๗.พระครูใบฎีกาขาว วัดช้างไห้ จ.ปัตตานี
๒๘.พระพิศิษฐ์ธรรมภาณ วัดเจริญสมณกิจ จ.ภูเก็ต
๒๙.พระครูอุปถัมภ์บุรกร วัดจันทาราม จ.ระนอง
๓๐.พระธรรมาวุธวิศิษฐ์ วัดธรรมวาวุธฯ จ.กระบี่
๓๑.พระพุทธวิริยากร วัดสัตตานาถฯ จ.ราชบุรี
๓๒.พระครูอินทโชติวัฒน์ วัดปากท่อ จ.ราชบุรี
๓๓.พระครูวรกิจจาภิวัติ วัดป่าไก่
๓๔.พระครูภาวนานิเทศน์ก์ วัดเขาวัง
๓๕.พระครูสตาธิการุณ(หลวงพ่อทองอยู่) วัดใหม่หนองพะอง
๓๖.พระครูสถิตธรรมสาคร วัดนางสาว
๓๗.พระครูภาวนาวรคุณ วัดเกตุมดีสีวราราม
๓๘.พระครูพิศาลสุตาคม วัดหนังราชวรวิหาร
๓๙.พระราชโมลี วัดราชโอรส
๔๐.พระวิมลกิจจารักษ์ วัดชนะสงคราม
๔๑.พระปลัดพลายงาม วัดกำแพง
๔๒.พระมหาพิสูจน์ วัดปากน้ำภาษีเจริญ
๔๓.พระครูกิตตินนทคุณ(หลวงพ่อกี๋) วัดหูช้าง จ.นนทบุรี
๔๔.พระครูสังฆรักษ์ วัดนครชื่นชุ่ม
๔๕.พระอธิการพวง วัดตะโน
๔๖.พระครูถาวรวิทยาคม(หลวงปู่เพิ่ม) วัดสรรเพชร
๔๗.พระครูสมุห์ศรีวงศ์ วัดแก้วแจ่มฟ้า
๔๘.พระครูปลัดเยื้อน(พระมหาสิทธิการ) วัดเพชรสมุทรวรวิหาร
๔๙.พระราชสังวรวิสุทธิ์ วัดป่าโมก จ.อ่างทอง
๕๐.พระครูภาวนารังสี วัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา
๕๐.พระครูพิพิธวิหารการ(หลวงพ่อเทียม)วัดกษัตราธิราช
๕๑.พระโฑธาราคณวัฒน์ วัดเฉลิมอาสน์
๕๒.พระครูอาจารโสภณ วัดกลางวังเย็น
๕๓.พระครูวิจิตรธรรมรส วัดบ้านโปร่ง
๕๔.พระครูโสภณรัตภรณ์(เพิ่ม เขมกาโม) วัดดอนตูม
๕๕.พระครูสมุทรกิจโกศล วัดป้อมแก้ว
๕๖.พระครูสมุทรสารโสภณ วัดบางกะพ้อม
๕๗.พระครูสุวรรณสมุทรคุณวัดเทพประสิทธิคณาวาส
๕๘.พระครูสมุทรเมธี วัดอัมพวันเจติยาราม
๕๙.พระครูสมุห์ทองก้อน วัดเพชรสมุทรวิหาร
๖๐.พระครูอดุลวิหารกิจ วัดสระแก้ว
๖๑.พระอาจารย์วิโรจน์รัตนโนบล (หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง จ.อุบลราชธานี)
๖๒.พระเกษตรศีลาจารย์ วัดเจียงอีศรีมงคลวราราม ศรีสะเกษ
๖๓.พระครูศรีไคลคณารักษ์ วัดกัลยาโฆสิตาราม
๖๔.หลวงพ่ออ่อน วัดเพียมาตร
๖๕.พระเมธีธรรมาราม วัดอสาณ
๖๖.พระปริยัติวรคุณ วัดกลาง
๖๗.หลวงพ่อสาม(หลวงปู่สาม อกิญฺจโน)วัดป่าไตรวิเวก จ.สุรินทร์
๖๘.พระครูสุนทรธรรมโกวิท วัดบึง
๖๙.พระปทุมญาณมุนี วัดบึง
๗๐.พระอริยานุวัตร วัดนาควิชัย
๗๑.พระสุเมธีธรรมภาณ วัดประชาบำรุง
๗๒.พระศิริวุฒิเมธี วัดบูรพาภิรมย์
๗๓.พระราชสารธรรมมุนี วัดศรีนวล จ.ขอนแก่น
๗๔.พระวินัยสุนทรเมธี วัดศรีจันทร์
๗๕.พระครูโอภสสมณกิจ วัดป่าวิเวกธรรม
๗๖.พระราชธรรมานุวัตร์ วัดประชานิยม
๗๗.พระเทพรัตนโมลี วัดพระธาตุพนม จ.นครพนม
๗๘.พระครูอรรถการโกวิท วัดศิลาอาสน์
๗๙.พระครูวิจิตรนิโรธคุณ วัดทุ่งสว่าง
๘๐.พระครูอมรวิสุทธิ์ วัดศรีธรรมาราม
๘๑.พระครูจันทรังษี วัดบางขนาก
๘๒.พระครูสาทรพัฒนกิจ(หลวงพ่อลมูล)วัดเสด็จ จ.ปทุมธานี
๘๓.พระครูสะวิมลกิจ วัดบางแคน้อย
๘๔.หลวงพ่อมุด มหาปทุโม วัดยางสุทธาราม
๘๕.หลวงพ่อผ่อง วัดจักรวรรดิ์ราชาวาส
๘๖.หลวงพ่อเส่ง(หลวงปู่เส่ง โสภโณ) วัดกัลยาณมิตร
๘๗.พระครูสังวรวิมลเถร(หลวงปู่โต๊ะ)วัดประดู่ฉิมพลี
๘๘.พระครูสังวรธรรมานุวัตร์(หลวงปู่พล)วัดหนองคณฑี
๘๙.พระครูภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี)
๙๐.หลวงพ่อฮ้อ สำนักสงฆ์หุบผาสวรรค์
๙๑.พระอาจารย์บุญคง
๙๒.พระอาจารย์บุตร
๙๓.พระอาจารย์มั่น
ฯลฯ
*** พระอมฤตนันทะมหาเถโร ประธานสงฆ์แห่งประเทศเนปาล เป็นประธานในพิธีดับเทียนชัย
***** หมายเหตุ ข้อมูลจากหนังสือ สปส จักรพรรดิพระเครื่อง

Contribute!
Books!
Shop!